เรื่องราวของนิภา

แรกเริ่ม : นางอังเลย์ฮวา และสามีริกกี้ตันเป็นพ่อแม่ที่ยืนหยัดเพื่อเด็กไทย 80 คนและเด็กทารกที่เป็นโรคเอดส์แปดคน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของพวกเขาเป็นสถานเลี้ยงเด็กเล็ก ๆ เพื่อลดความปัญหาในครอบครัวในประเทศไทยที่ประสบวิกฤต

  • ทั้งคู่ดูแลสำหรับเด็กผู้หญิงในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศไทย
  • แม่วัยรุ่นที่ค้าประเวณี
  • เป็นสถานที่พักฟื้นทางจิตใจสำหรับเด็ก ๆ

ความก้าวหน้า

จิตใจที่มีปัญหาของริคกี้ตัน เป็นที่ชัดเจนว่ากำลังคิดถึงที่อื่นเพราะเราทานอาหารกลางวันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ Great World City เขากำลังคิดถึงเด็กไทยที่หายไปชื่อนิภาซึ่งเขาและภรรยาดูแลเป็นเวลาสี่ปี พวกเขากลัวว่าเธออาจอยู่ในเงื้อมมือขององค์กร – อาจทำงานในร้านอาหารชั่วคราว ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยเหลือเธอ แต่เธอก็หายไปอีกครั้ง “ร้านอาหารเชียงใหม่บางแห่งถูกใช้เป็นที่พักพิงสำหรับเด็กโสเภณีก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งไปที่ซ่องโสเภณี” เขาอธิบาย “เขามีแผนที่จะตามหานิภา” นายตันกล่าว

“ฟังดูเหมือนจะต้องใช้เวลานาน แต่ฉันอยากเข้าร่วมกับคุณ” ฉันบอกว่าไม่รู้ว่าบรรณาธิการจะซื้อความคิดหรือไม่ พวกเรารู้จักนิภาตั้งแต่อายุ 15 แต่พวกเรามีเพียงเบอร์ติดต่อเก่า ห้าปีก่อน, มาดามอัง เลย์ ฮวา ชาวสิงคโปค์วัย 37 ปีและคุณตันอายุ 42 ปีชาวมาเลเซียเลิกทำงานเพื่อจัดตั้งศูนย์โรคเอดส์สำหรับเด็กแรกเกิดที่เป็นโรคเอดส์และมูลนิธิมูลนิธิเด็กกำพร้าดูแลเด็ก 80 คนในจังหวัดเชียงใหม่ประเทศไทย มาดามอัง จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เป็นอาจารย์โรงเรียนมัธยมในขณะที่คุณตันผู้สำเร็จการศึกษาด้านเทววิทยาของอเมริกาได้รับการฝึกฝนให้เป็นศิษยาภิบาลของโบสถ์ พวกเขาสืบจากครอบครัวทั้งสามของเด็ก เพื่อติดตามการโทรของพวกเขา เราพบทั้งคู่ในขณะที่ค้นคว้ารายงานเกี่ยวกับทารกโรคเอดส์ในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปีที่แล้ว

นิภาไม่ใช่เด็กที่กำพร้าจากเอดส์ แต่เรื่องราวของเธอก็ไม่แพ้กัน ในวันขึ้นปีใหม่ ริกกี้เรียกฉัน บอกว่านิภาอยู่ในกรุงเทพ สองวันถัดมา ริกกี้บอกว่าเขาได้รับที่อยู่ หัวหน้าช่างภาพ ฟิลิป ลิมและฉันบินไปกรุงเทพในวันถัดไป เป็นสามวันต่อมาที่ได้เปิดหูเปิดตาของพวกเรา

– เขียนโดย Augustine Pang

  • ทั้งคู่พยายามนำเด็กออกจากบ้านพักโสเภณี
  • มีคนร้ายพยายามหยุดทั้งคู่ในการช่วยเด็กออกจากบ้านพักโสเภณี
  • นักสังคมสงเคราะห์ชาวไทยได้ขอให้ผู้มีเส้นสายใต้ดินช่วยเหลือให้เด็กเป็นอิสระ
  • ทั้งคู่พาเด็กกลับมาที่สถานเลี้ยงเด็ก แต่เธอก็หนีออกไปอีก

คำสุดท้าย

“ทำไมคุณไม่เขียนบางอย่างในเชิงบวก ประเทศไทยมีอะไรมากกว่าโสเภณีและโรคเอดส์?” นักสังคมสงเคราะห์คนไทยพูดกับฉันที่เชียงใหม่ นี่คืออารยธรรมโบราณที่สุด วัฒนธรรมและความเป็นเอกราชของไทยได้รับการชื่นชมอย่างมากในภูมิภาค, นำโดยกษัตริย์ที่มีสายยาวเหมือนกษัตริย์ภูมิพลในปัจจุบัน ในช่วงรัชสมัยของเขาเศรษฐกิจได้พุ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น แต่ฟองสบู่แตกในเดือนกรกฎาคม 2540 เมื่อค่าเงินบาททรุดตัวลงและเริ่มเกิดวิกฤติในภูมิภาค. คนไทยกำลังดิ้นรน มีเรื่องราวมากมายของเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้งหรือขายโดยผู้ปกครองเพราะคนไม่มีเงิน

– Augustine Pang

“แม่บอกว่าเธอต้องการสร้างบ้านและบอกให้ฉันทำงานเพื่อที่ฉันจะได้ช่วยเธอหาเงินได้ เธอบอกให้ฉันทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟ แต่เมื่อฉันทำงานที่นั่นฉันก็รู้ตัวช้าๆว่าเด็กหญิงต้องนอนกับผู้ชาย”
– นิภา, อายุ 15 ปี

  • คนไทยหกล้านคนอาศัยอยู่เหนือเส้นแบ่งของความยากจน
  • เมื่อปีที่แล้วจากนักเรียนระดับประถมศึกษาทุกๆ 5 หมื่นคน มี 1 คนจะต้องออกจากโรงเรียน
  • ธนาคารโลก

การช่วยเหลือนิภา: ทั้งคู่ต่อสู้เพื่อที่ปล่อยวัยรุ่นไทยเป็นอิสระจากการค้าประเวณี

หัวใจของเรื่องราวของเราคือเด็กสาวไทยอายุ 15 ปีที่ไร้เดียงสาผู้ซึ่งรู้สึกเจ็บปวดและถูกทรยศกว่าพวกเราส่วนใหญ่รู้ในชีวิต เธอเจ็บปวดโดยแม่ของเธอ คนที่เธอทิ้งเธอในสถานเลี้ยงเด็ก และขายให้พวกค้าประเวณีในราคา 4,000 บาท ($190).

เมื่อนิภาเข้าไปทำงานที่ร้านอาหาร ครั้งแรกที่เธอคิดว่างานคงจะเป็นการให้บริการเสริฟอาหารแก่ลูกค้า สมาคมการค้าประเวณีใช้ร้านอาหารในการบังหน้าเพื่อค่าประเวณีสำหรับหญิงสาวที่บริสุทธิ และหญิงสาวนั้นรู้ว่ามันเป็นเพียงเรื่องคั่นก่อนที่เธอจะเข้าร่วมกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่มีการแจกจ่ายให้กับหญิงโสเภณีทั่วประเทศ

ใครจะเป็นผู้มีอำนาจในไทยเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าคนหนึ่ง เมาดามอัง เลย์ ฮวา ชาวสิงคโปค์วัย 37 ปีและคุณตันอายุ 42 ปีชาวมาเลเซีย ทั้งคู่เปิดสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศไทย ทั้งคู่ดูแลนิภา  เคยเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของพวกเขา ที่นิภาอาศัยอยู่ก่อนที่แม่ของเธอจะพาเธอออกไป และพวกเขามุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตเธอจากคนโกง

คุณตันติดตามเธอลงเพียงเพื่อจะหันหน้าหนีโดยอันธพาล โอกาสในการโฆษณาในจดหมายข่าวทำให้เขารู้จักผู้หญิงคนหนึ่งชื่อโฮป  ด้วยความโชคดีความกล้าและความกล้าหาญทำให้เธอสามารถช่วยเหลือนิภาผู้ซึ่งใช้เวลา 1-1 / 2 เดือนที่ร้านอาหาร  แต่เรื่องราวของเธอยังไม่จบลง เมื่อนิภารู้สึกแย่โดยแม่ของเธอ คนที่เธอควรจะเชื่อใจ ?  นิภาหนีไปอีกครั้ง หลังจากหกเดือน  คุณอัง และคุณตัน ได้ทำการตามหานิภา แล้วนำพาตัวเธอกลับมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกครั้ง

ร้านกาแฟเชียงใหม่

ใกล้จะสิ้นเดือนพฤษภาเมื่อปีที่แล้ว และคุณตันคิดว่าถ้าเขาได้พอเจอกับนิภาอีกครั้ง เขาไม่มีไอเดียที่คิดว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ไม่มีผับสำหรับจะตามตัวเธอ หลังจากนั้นหนึ่งในพนังงานของเขา . ทันใดนั้นก็จำได้ว่าส่งข้อความที่ถูกลืมไปให้เขา นิภาติดต่อกลับหลังจากนั้น เธอทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอสันทราย พวกเรามีความหวังแล้ว ! คุณตันไปยังสถานที่นั้นอย่างรวดเร็ว สถานที่นั้นเหมือนกับร้านอาหารไทยทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นบ้านที่ที่พักเด็กก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งไปยังค้าประเวณี

นิภาที่กำลังเสิรฟอาหารอยู่ได้เห็นคุณตันเดินเข้ามาให้ร้าน ทำให้เธอตกใจทันที “เธอต้องการที่จะกลับบ้านไหม ?” Mr. Tan asked. Nipha พยักหน้า “ไปเก็บของ.” ระหว่างที่เธอเก็บของ ชายร่างอ้วนเข้ามาระหว่างพวกเขา เขาพูดอย่างตระโกนว่า : “เธอไม่สามารถไปได้!” เขามองมาทางนิภา และพูดว่า : “เธออยู่นี่นะ !” มีเสียงคุกคามจากเสียงของผู้ชาย คุณตันได้บอกกลับไปว่า “เด็กผู้หญิงคนนี้มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของฉัน” “คุณเป็นผู้ปกครองตามกฎหมายของเธอหรือ?” เขาถามอย่างช้าๆ คุณตันรู้ว่าเขาพ่ายแพ้ ชายผู้นี้ ชายผู้นี้เก็บนิภาไว้ที่ร้านอาหารของเขาได้เพราะการบังคับ และแม้แต่กฎหมายก็ไม่สามารถช่วยคุณตันได้

จดหมายแจ้งข่าว

ไม่มีความหวังสำหรับนิภาหรือเปล่า? หลังจากหนึ่งอาทิตย์ที่เขาไปร้านอาหาร คุณตันเห็นโฆษณาในจดหมายข่าวท้องถิ่น มาจากกลุ่มสตรีสากล (IWG) และความสิ้นหวัง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทร ผู้หญิงที่ปลายอีกฟังไม่แยแส เมื่อนายตันถามว่าเธอสามารถช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาได้หรือไม่
ผู้หญิงที่รับสาย: ได้สิ, อย่างเช่นอะไรละ?
คุณตัน: ฟังนะ ฉันอยากจะคุยกับประธาน
ผู้หญิงที่รับสาย: เอาหละนะ ไม่มีใครใหญ่ที่นี้ แหละฉันนี้แหละประธาน

โอกาสเข้ามาหานิภาอีกครั้ง ผู้หญิงที่คุณตันคุยด้วยนั้นก็คือ คุณโฮป วัชรปรีชา ประธาน IWG และหนึ่งในผู้หญิงที่น่ากลัวที่สุดที่คุณจะได้พบ ชาวอเมริกาที่แต่งกับคนไทย เธอรู้จักคนส่วนใหญ่ที่มีความสำคัญในสังคมชั้นสูงในเชียงใหม่ และเหนือสิ่งอื่นใดเธอก็เต็มใจช่วย คุณวัชรปรีชาฟังเรื่องราวของนายตันและตัดสินใจทันที ใช่ เขาสามารถไว้ใจเธอได้ ทำไมภรรยาของนักธุรกิจไทยที่มีชื่อเสียงอยากจะช่วยเหลือคนแปลกหน้า ?

คุณวัชรปรีชา ได้ตอบเรียบร้อยว่า “ฉันนั่งลงและจินตนาการว่าเธอ (นิภา) อยู่ในสถานะการลำบาก จากนั้นฉันคิดถึงเด็กที่อยู่ใน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พวกเขาดูแลเธอมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เธอบอกกับเขาให้โทรหาเธออีกสองวัน ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงนิภาที่น่าสงสาร ที่ติดอยู่ในร้านอาหารแห่งนั้น เมื่อหนังสือพิมพ์ไปเยี่ยมที่ร้านอาหารเดียวกัน มันดูเงียบ แต่ด้านหลังร้านอาหารเป็นเลานจ์ที่ตกแต่งอย่างมีสีสันพร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้เก้าอี้คาราโอเกะและไฮ – ไฟ ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นสิ่งสร้างสนุกสนานของลูกค้า ถัดจากเลานจ์เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศสองเครื่อง นิภาผู้น่าสงสาร อันตรายที่เธอกำลังเผชิญนั้นเป็นของจริง มันถูกรับรองความจริงโดยนาย รณงค์ วิเจเก็ตกะ ประธานสมาคมพัฒนาเด็กและเยาวชนเชียงใหม่ นายณรงค์อายุ 50 ปีกล่าวว่าองค์กรมักจะซื้อเด็กในราคาต่ำ และทำร้ายเด็กก่อนที่จะส่งตัวไปค้าประเวณี ประมาณการของโสเภณีเด็กในประเทศไทยนั้นแตกต่างกันไประหว่าง 40,000 ถึง 200,000 นิภาจะกลายเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่? มันเป็นอะไรที่เล็กน้อยมากๆ แต่ว่า…

ไปด้วยกันอีกครั้ง : นิภากลับมาอยู่กับคุณตันเป็นครั้งที่สอง

โฮป วัชรปรีชา รู้จักคนที่ใหญ่โตและไว้ใจได้ในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อที่น่าจะช่วยเหลือนิภา เธอยินดีที่จะไล่ล่าพวกเขาทั้งหมด เธอเข้าหานักการเมือง ทนายความ ทุกคนที่มีอิทธิพลเพื่อช่วยสาวน้อยจากโชคชะตาที่น่ากลัว บางคนไม่สนใจ บางคนหลบปัญหา เมื่อกฎหมายไม่สามารถช่วยได้เธอจึงตัดสินใจเข้าหาหัวหน้ามาเฟีย และความโชคดีที่กลับมาอีกครั้ง

โฮป วัชรปรีชา ผู้เปิดบริษัทฮาร์ดแวร์ พบว่าอดีตหนึ่งในพนักงานของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวหน้าที่จับตัวนิภาไป คุณวัชรปรีชารีบส่งข้อความไปถึงเขา เธอบอกว่า “ฉันถามว่าต้องการเท่าไหร่ สำหรับปล่อยตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ ? ” เขาตอบกลับมาว่า “3000 บาท ($145)” ฉันบอกไปว่า “ฉันจะจ่ายและให้ปล่อยตัวเธอภายในสองวัน”  ฉันบอกให้เขาไปเตือน  “ ฉันฝากข้อความไปให้หัวหน้าที่เขารู้จัก และบอกให้เขาอยู่ในพื้นที่ของเขาและอย่าแตะต้องของๆฉันอีก”

เธอข่มขู่หัวหน้ามาเฟีย แม้ว่าเพื่อน ๆ ของเธอไม่ยอมช่วยเธอ! ความมั่นใจของเธอทำให้เขากลัว นิภาถูกปล่อยออกมาภายในสองวัน ไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินบาทเดียว เรื่องราวจบลงอย่างมีความสุขหรือไม่? ไม่ บทสรุปยังคงค้างอยู่อีกหกเดือน

คู่สามีภรรยาชาวนิวซีแลนด์เสนอที่จะช่วยเหลือนิภา สร้างชีวิตของเธอใหม่ ในสิงคโปร์ คู่สามีภรรยา นางดาวน์ กรีนฟิลล์ และสามีเดฟ ทั้งคู่อายุ 51 ปี กล่าวว่า “พวกเราต้องการเธอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว เธอเจ็บปวดอย่างมากในชีวิตของเธอ..” แต่ข้อเสนอกลับถูกยกเลิก เมื่อมาดามอังค์ ได้คิดเรื่องนี้กับนิภา ว่าเธอวิ่งหนีไปเพราะกลัวว่าจะถูกขายอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเด็กผู้หญิงที่ถูกแม่ของเธอหักหลัง จะวางใจคนแปลกหน้าได้อย่างไร?

หกเดือนผ่านไป หกเดือนแห่งการรอคอย คาดหวัง เจ็บปวด นิภาอยู่ที่ไหน? และในที่สุดโชคดีก็กลับมาอีกครั้ง มีคนเห็นนิภา และตอนนี้คุณตันมีความหวังที่จะนำพาตัวสาวน้อยกลับมา และข่าวดีเขาได้ยินมาว่า เธอทำงานเป็นแม่บ้าน และตอนนี้พวกเราอยู่กับเราในจังหวัดสระบุรี ใกล้จากที่นี่ รถบัสเล็กๆของเรากำลังไปสู่ร้านเล็กๆ และตู้โทรศัพท์สาธารณะ

สตาฟของคุณตัน คุณศรีจันทร์ ลาตู อายุ 29 ปียืนยันว่าเขามีที่อยู่นิภา และเขาบอกว่า “นิภาอยู่ที่นั่น แต่คนในบ้านต้องการให้ตำรวจตรวจสอบพวกเราก่อน” ครึ่งชั่วโมงต่อมารถตำรวจมาถึง เจ้าหน้าที่สองคนมาตรวจสอบเราและพาเราไปที่นิภา นิภากำลังยืนอยู่ข้างถนน เราหวัง คุณตันวิ่งไปหาเธอแล้วกอดเธอ “ นี่คือนิภา” เขาพูด ราวกับว่าเราไม่รู้ นิภาได้ทำงานเป็นแม่บ้านกับมาดามลาเตอร์ อายุ 48 ปีตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เธอปลอดภัย และเธอพร้อมที่จะส่ง“ กลับบ้าน” กลับไปหาคุณตัน

เขาบอกว่าเขาจะให้นิภา1500 บาท (เท่ากับเงินเดือนที่เธอได้) ที่จะช่วยเหลือเธอที่อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ยิ่งไปกว่านั้นเธอสามารถเรียนต่อได้ มาดามเลเตอร์พูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างหนัก:“ เธอสามารถกลับไปกับคุณหลังจากที่ฉันหาคนมาแทน หวังว่าเดือนหน้า”
นิภาผู้ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ยิ้มกว้างใหญ่ เธอกำลังจะได้กลับบ้านอีกครั้งเพื่ออนาคตที่คนกลุ่มเล็ก ๆ กำลังปรับตัวเพื่อเด็ก ๆ หลายคนที่ไม่มีหวังในประเทศไทย

มันคือช่วยเหลือจากสิ่งเล็กๆน้อยๆหรือไม่ ? คุณวัชรปรีชาอยากให้เด็กๆทุกคนที่หลุดพ้นจากการค้าประเวณี อาจจะมีอีก 10 คนที่ไม่มีหวัง แม้แต่สิ่งเล็กๆเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างแน่นอน